เพศ และ กามารมณ์
กับรูปแบบสังคมที่เปลี่ยนไป
กาลครั้งหนึ่งนานมา
คนไทยเคยเขินอายกับอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ
เรื่องเพศ และ กามารมณ์
ผู้หญิงไทยเคยกระดากกับการกระทำตัวให้มีเสน่ห์ในเชิงยั่วยุกามารมณ์
ผู้ชายไทยเคยรู้สึกอัปยศอดสูกับการกระทำใด
ๆ
ก็ตามที่เป็นการละเมิดต่อคนเพศแม่
ทว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปเพศ และ กามารมณ์
ได้รับการวิเคราะห์ศึกษาประเมินค่าและตีความว่า
เป็นเรื่องธรรมชาติ
มิใช่สิ่งผิด
ไม่จำเป็นต้องปกปิดซ่อนเร้น
(ให้เกิดภาวะเก็บกดทางอารมณ์)
เพราะฉะนั้นคนปัจจุบันไม่ว่าหญิงหรือชายจึงสามารถพูดจาพาดพิงถึงเรื่องเพศได้อย่างเปิดเผยและโจ๋งครึ่มมากขึ้น
สื่อต่าง ๆ
นำประเด็นเรื่องนี้มาหากินทั้งในรูปของข่าว
บทความ รูปถ่าย (ภาพนิ่ง)
ภาพเคลื่อนไหวอย่างวีดีโอเทป
มิวสิควีดีโอ โฆษณา
หรือแม้กระทั่งเนื้อเพลง
ซึ่งแทบทั้งหมดนี้ล้วนได้รับอิทธิพลจากสื่อต่างชาติ
ดาราหรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง
ๆ
พากันภูมิอกภูมิใจกับการลุกขึ้นมาเปิดผับ
บาร์
หรือดิสโก้เธคมอมเมากลุ่มเป้าหมายประเภทอ่อนไหว
เชื่อง่าย หลอกง่าย
ล่อง่ายและหลงง่ายอย่างเยาวชน
เจ้าของสินค้าประเภทสุราเมรัยพยายามสร้างภาพความโก้
เก๋ไก๋ เท่ หรูหรา
ดูดีให้กับสินค้า
เพื่อยั่วยุให้มีการบริโภคสินค้า
ดังนั้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถานที่ท่องเที่ยวอึกทึกครึกโครมยามราตรีอย่างอาร์ซีเอ,
เซย์ยู, หลังสวน, พัฒน์พงษ์ ฯลฯ
จะคึกคักคราคร่ำไปด้วยผู้คนสารพัดเพศ
สารพัดวัย สารพัดชาติ
อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถานที่สาธารณะอย่างโรงภาพยนตร์
สวนสาธารณะ ตู้โทรศัพท์
ที่นั่งเบาะหลังของรถประจำทางปรับอากาศจะแปรสภาพเป็นห้องนอน
(ชั่วคราว) ราคาประหยัด
ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟชั่นโชว์เนื้อหนังมังสาอย่าง
เสื้อเกาะอก สายเดี่ยว ซีทรู
เอวลอย ผ่าอก เปลือยหลัง
หรือกระโปรงสั้นแบบมินิ-ไมโคร
แหวกหลัง
ผ่าข้างจะกลายเป็นค่านิยมประหลาดที่หญิง
(ทั้ง)สาว(และไม่สาว)
ใช้เป็นเครื่องมือประชันความใจถึง
อย่างที่นิยมเรียกให้ดูดีว่า
เซ็กซี่ (ทั้ง ๆ
ที่ค่านิยมเหล่านี้อาจชักนำภัยมาสู่ผู้สวมใส่)
นอกจากนี้คนไทยอาจเคยชินกับข่าวเซ็กส์บอมบ์ชื่อดังตบเจ้าของผับ
เหตุแย่งสามี
นางแบบวัยรุ่นจูงมือมารดาขึ้นโรงพักแจ้งความจับนายแบบวัยละอ่อน
(พอ ๆ กัน) ในข้อหาข่มขืน
นักเรียนมัธยมถูกทรชนมอมยารุมข่มขืน
คนขับแท็กซี่ขยี้สวาทผู้โดยสารสาว
ฯลฯ ทั้งนี้
จะมีสักกี่คนตระหนักว่าเพศ
และ กามารมณ์
มิใช่เรื่องของความพอใจของคนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
หากแต่ยังต้องเป็นความเต็มใจ
ความพร้อมและความเหมาะสมของทั้งตัวบุคคล
วุฒิภาวะ (ของทั้งสองฝ่าย)
สถานที่ และปัจจัยอื่น ๆ
เนื่องจากผลกระทบอันสืบเนื่องมาจาก
เพศ และ กามารมณ์
อาจเป็นที่มาของชีวิตใหม่
อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของหญิงและชายต่อไปในอนาคต
ถึงแม้ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารจะทำให้เกิดภาวะที่โลกทั้งใบมีเครือข่ายเชื่อมโยงถึงกันโดยง่ายผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเกิดการแลกเปลี่ยนข่าวสารและวัฒนธรรมระหว่างกัน
ทว่าภูมิหลังทางวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ต่างกันก็เป็นที่มาของค่านิยม
ความเชื่อ ทัศนคติ
และแนวคิดที่แตกต่างกันเช่น
แม้ว่าปัจจุบันคนไทยจะรับเอาแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องเพศและกามารมณ์จากตะวันตกมามากขึ้น
(เช่น ค่านิยมการอยู่ก่อนแต่ง)
แต่เราก็ไม่รับมาทั้งหมด
ความคิดบางอย่างที่ควรจะมาด้วยกันหลายคนก็ละเลย
(เช่น
ตะวันตกเมื่อออก เดทกัน
หากฝ่ายหญิงไม่พร้อมที่จะมีเพศสัมพันธ์
ฝ่ายชายไม่ควรบังคับขืนใจ)
ขณะเดียวกันความคิดทัศนคติเก่า
ๆ ก็ทำให้ผู้ชายหลายคนคิดว่า
การที่ฝ่ายหญิงยอมไปไหนด้วย
หมายถึง ผู้หญิงง่าย
จะทำอะไรก็ได้
นอกจากนี้ผู้หญิงที่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมากกว่า
1 คน ก็มักไม่ได้รับการยอมรับ
ผู้ชายไทยจำนวนไม่น้อยยังสนใจและใส่ใจกับอดีตหรือประวัติของผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ครอง
(ซึ่งผู้ชายตะวันตกอาจไม่ได้เคร่งครัดกับเรื่องนี้มากนัก
ด้วยเหตุผลนี้
การรับเอาวัฒนธรรมใด ๆ
ก็ตามที่อาจเกี่ยวเนื่องกับประเด็นเรื่อง
เพศ และ กามารมณ์ จากต่างชาติ
(ไม่ว่าจะแนวคิด ค่านิยม
การแต่งกาย ฯลฯ)
คนไทยจึงควรระมัดระวังและมีความรอบคอบ
เนื่องจาก เพศ และ กามารมณ์
เป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่อาจเป็นที่มาของปัญหาครอบครัว
ปัญหาสังคม
และลุกลามเป็นปัญหาระดับชาติ
ที่สำคัญคุณคงไม่ลืมว่าอย่างน้อยเราก็เป็นคนไทย
(ดังนั้นวัฒนธรรมที่เราอวดกับใคร
ๆ
ได้อย่างภาคภูมิที่สุดก็น่าจะเป็นวัฒนธรรมไทย)
อย่างน้อยเราก็เป็นมนุษย์ผู้หญิง
และ/หรือ
อาจมีมนุษย์ผู้หญิงเกี่ยวข้องเป็นญาติสนิทมิตรสหาย
(ดังนั้นภัยใด ๆ ที่อาจมาพร้อม ๆ
กับรูปแบบของสังคมใหม่ก็น่าจะได้รับการระแวดระวัง
หาทางป้องกัน)
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีอาชีพ ฐานะ
สถานภาพ หรือหน้าที่ใดในสังคม
คุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสกัดกั้นและกลั่นกรองให้สังคมไทยรับและรักษาไว้ซึ่งสิ่งดีงาม
เริ่มที่ตัวคุณเอง
อย่าปล่อยให้ภาพมายาของกามารมณ์จากต่างวัฒนธรรมมารุกรานคุณค่าของความเป็นไทย
ฐิติพร
วินิจมงคลสิน |