ศูนย์เฝ้าระวังทาง...
บรรณาธิการ
ห้องรับแขก
ฉลาดบริโภค
บอกเล่าเก้าสิบ
ร่วมด้วยช่วยสังคม
ข่าวคนดี
แสดงความคิดเห็น

รถเมล์แอร์ธรรมชาติ

ใครว่าเมืองไทยไม่การ์ตูน เพศและกามารมณ์ ลูกหลาน เผ่าพันธ์... โฆษณาขายเซกส์ ความจริงต้องยอมรับ รถเมล์แอร์ธรรมชาติ

รถเมล์แอร์ธรรมชาติ 3.50 บาทตลอดสาย

 

ฉับพลันที่ก้าวขึ้นรถเมล์สาย 53 หลายคนคงอดจะแปลกใจไม่ได้กับพัดหลากสีที่ห้อยโหนระโยงระยางกับที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งมีเตรียมไว้พร้อมให้บริการเต็มที่กับผู้โดยสารทุกคน แต่ก็ไม่ใช่สาย 53 ทุกคันที่ผู้โดยสารจะได้รับการบริการเช่นนี้ จำเพาะแต่สาย 53 คันที่มีนายกิตติคุณ ขวัญสมบูรณ์ เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารหรือกระเป๋ารถเมล์เท่านั้น

                “กิตติคุณ” ผู้ได้รับการขนานนามว่ากระเป๋าอารี เล่าว่า เมื่อ 3 เดือนก่อน เขาเป็นกระเป๋ารถเมล์สาย 53 ปรับอากาศ แต่ภายหลังถูกยุบให้เหลือเพียงแค่รถธรรมดาหรือรถเมล์ ดังนั้นเมื่อต้องเปลี่ยนมาเป็นกระเป๋าก็คิดวิธีที่จะให้ผู้โดยสารที่ขึ้นรถธรรมดาได้คลายร้อนหรือเหมือนรถปรับอากาศบ้าง จึงนำพัดไม้ไผ่สานที่เขาเป็นผู้จ่ายเงินเอง ห้อยเชือกด้ามพัดผูกติดกับราวจับบริเวณเบาะที่นั่งเพื่อให้ผู้โดยสารใช้พัดคลายร้อนและคลายเครียดจากสภาพจราจร

                “ผู้โดยสารไม่เคยเจอมาก่อน คนที่ขึ้นมาครั้งแรกจะงง ๆ ว่าทำอะไร แต่ก็รู้สึกชอบบอกว่า

ไอเดียดี คนแก่ชอบใจกันมาก แนะนำด้วยว่าน่าจะมีทุกคันอากาศร้อนมาก ซึ่งที่เขาต้องมานั่งรถเมล์ธรรมดาก็เพราะไม่มีเงินขึ้นรถแอร์ ค่าโดยสารรถแอร์แพง  ผมเลยบอกกับเขาว่า ไม่มีเงินขึ้นรถเมล์แอร์คนจนได้  รถผมเป็นรถแอร์ธรรมชาติ เก็บค่าโดยสาร 3.50 บาทตลอดสาย เย็นสบายได้เหมือนกัน”

                แม้อากาศจะร้อนระอุ การจราจรที่ใกล้เคียงกับจลาจลเข้าไปทุกวัน แต่ก็ไม่ทำให้ผู้โดยสารรถเมล์สาย 53 คันนี้เคร่งเครียดแม้แต่น้อย นอกจากนี้ผู้โดยสารไม่เพียงแต่จะได้รับบริการแอร์ธรรมชาติจากพัดไม้ไผ่สานเท่านั้น บนรถเมล์สาย 53 คันนี้ยังจัดบริการยาหอม ยาดม ยาหม่อง พาราเซตามอล ผ้าพันแผล ทิงเจอร์ ยาแดง และยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็น หากใครเกิดเป็นลมหน้ามืด เจ็บป่วยระหว่างการเดินทางบนรถเมล์สายนี้ ก็จะสบายใจได้เลยว่าได้รับการรักษาบรรเทาเป็นอย่างดี พร้อมส่งถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ

                “กระเป๋ารถเมล์อารี” เล่าว่ามีผู้โดยสารจำนวนมากชอบใจไอเดียบริการพัดบนรถเมล์ และอยากช่วยเหลือนำเงินมามอบให้ บางคนให้ 50 บาท 100 บาทก็เคยมี โดยบอกว่าให้เป็นทิป และอยากช่วยค่าพัด ค่ายาดม ยาหม่อง

                ”ผมขอบคุณผู้โดยสารทุกคนที่มีน้ำใจกับผม แต่ผมไม่สามารถรับได้ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ต้องให้บริการผู้โดยสารอยู่แล้ว เพียงแต่อยากทำอะไรที่แปลกใหม่ และเป็นประโยชน์กับผู้โดยสารเท่านั้นเอง”

                สำหรับพัดที่จัดไว้บริการบนรถเมล์นี้ “กิตติคุณ” แบ่งเงินเดือนที่ได้รับไปซื้อพัดหลากสีมาทั้งหมด 34 อัน ในราคาอันละ 15 บาท เขาคำนวณแล้วว่า จำนวนพัดที่เตรียมไว้จะเพียงพอกับผู้โดยสารที่ได้นั่งเบาะ และยังเหลือสำรองสำหรับคนที่ยืน โดยเขาจะเข้าไปถามว่าต้องการพัดสำหรับคลายร้อนหรือไม่ บางทีก็พัดให้เลยไม่ต้องรอให้ตอบรับการบริการ

                “กิตติคุณ” เป็นกระเป๋ารถเมล์สาย 53 มากว่า 20 ปีแล้ว โดยรถเมล์สาย 53 จะวิ่งบริการเส้นทาง เทเวศร์-รองเมือง วิ่งตั้งแต่ตลาดเทเวศร์ นางเลิ้ง สี่แยกมหานาค ตลาดโบ๊เบ๊ วงเวียน 22  หัวลำโพง บรรทัดทอง

เยาวราช ปากคลองตลาด ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ สนามหลวง และบางลำภู ส่วนจะเป็นรถเมล์สาย 53 คันใดนั้น ไม่สามารถระบุได้แน่นอน เพราะต้องสลับเวลาทำงานกับกระเป๋าและคนขับคนอื่นด้วย ซึ่งรถเมล์สาย 53 ของกระเป๋ารถเมล์อารีคนนี้จะวิ่งอยู่ช่วงเช้า

                ผู้โดยสารหลายคนรอที่จะได้ขึ้นรถเมล์สาย 53 ที่มีกระเป๋าชื่อ “กิตติคุณ” ทั้งนี้คงไม่ใช่แค่เพียงได้รับการบริการพัดคลายร้อนหรือแม้แต่หยูกยาต่าง ๆ เท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใดคือความมีน้ำใจที่เขาให้กับผู้โดยสารทุกคน

                ความร้อนอาจจะบรรเทาด้วยแรงลมที่โบกพัดผ่านแล้วผ่านไป  แต่ในวันที่ไม่มีแรงลมใด  ๆ หากได้คิดถึง “น้ำใจ” ของบุคคลนี้ ความรู้สึกร้อน  ๆ ทั้งหลายก็จะได้รับการผ่อนคลายโดยพลัน