NEWSWEEK นิตยสารชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับประเทศไทย โดยได้หยิบเอาประเด็นจี้แทงใจดำพี่ไทยมาตีแผ่ นั่นคือ “เมืองไทยมีดีอยู่ ๒ อย่าง คือเซ็กส์กับกอล์ฟ” พาดเป็นบทความเด่นตัวใหญ่ด้านหน้าหนังสือ งานนี้เล่นเอาหลายฝ่ายดาหน้าด่าเละ โดยเฉพาะในประเด็นที่ทำให้เสียภาพพจน์ของประเทศไทย หลายคนเหน็บฝรั่งคนนี้ว่า ก็มัวไปหมกมุ่นกับเรื่องพรรค์นี้จนไม่มีเวลาจะเงยหน้าออกมาดูเมืองไทยอย่างจริงจัง พอจับปากกาก็ร่ายยาวในสิ่งที่ตนเองรู้แค่หางอึ่ง ก็ไม่รู้ว่า ถ้าฝรั่งนายนี้ออกมาพิเคราะห์พิจารณาไทยแลนด์อย่างละเอียดแล้ว พี่ไทยจะรับได้หรือเปล่า เพราะคนไทยค่อนข้างจะหลงตัวเองมาแต่นมนาน และไม่ค่อยสบายอารมณ์นักที่ใครจะมาพูดหรือมาตำหนิอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นนิสัยพื้นฐานของคนไทยเสียด้วย

          อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากบทความดังกล่าวอีกหลาย ๆ เสียงก็ยอมรับความจริงตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏแม้จะออกตัวว่า ที่ฝรั่งพูดถูกเพียงครึ่งเดียว แต่ก็เป็นส่วนที่คนไทยเราต้องมองย้อนกลับมาดูความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา

          กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลสำรวจสถานบริการทางเพศ และผู้ให้บริการทางเพศปี ๒๕๔๒ พบว่ามีสถานบริการทางเพศทั่วประเทศ ๘,๔๓๑ แห่ง และมีผู้ให้บริการทางเพศ ๖๙,๑๓๙ คน พบว่าผู้ให้บริการกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของเรา โดยในการสำรวจครั้งนี้ได้แบ่งสถานบริการทางเพศออกเป็น 25 ประเภท ได้แก่ สำนัก โรงแรม บังกะโล เกสเฮาส์ บาร์เบียร์ บาร์อโกโก้ บาร์รำวง ดิสโก้เธค ไนต์คลับ ผับ คาราโอเกะ คอกเทลเลาจน์ อาบอบนวด นวดแผนโบราณ ซ่าวน่า คอฟฟี่ชอฟ คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมชาย นางทางโทรศัพท์ เตร็ดเตร่ สถานบริการอื่น ๆ ซึ่งพบว่า จำนวนสถานบริการทางเพศมีแนวโน้มสูงขึ้น ตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งมีจำนวนสถานบริการทางเพศ จำนวน 5,736 แห่ง จนกระทั่งปี 2542 มีสถานบริการทางเพศ จำนวน 8,431 แห่ง

          เห็นตัวเลขสถานบริการที่เพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มยังเพิ่มสูงขึ้นอีก ประกอบกับความหลากหลายของสถานบริการทั้งหมด 25 แห่ง คงเพียงพอที่จะยืนยันระดับหนึ่งได้ว่า ฝรั่งเจ้าของบทความคนนั้นพูดไม่ผิดเสียทีเดียว เพราะผ่านไปทางไหนของเมืองไทยก็จะพบกับสถานบริการและการให้บริการที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้กระจายอยู่ทุกภูมิภาค

          ดังนั้นก่อนจะรุมด่าฝรั่ง คนไทยควรจะหันมาหาความจริงกันดีกว่า ณ.เวลานี้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนมาไหนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สถานบริการเหล่านี้ผุดขึ้นเรียงรายอยู่ทั่ว ก่อนนี้สถานบริการหญิงชายอาชีพพิเศษเหล่านี้รู้กันวงแคบ ๆ ของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย แต่ในปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า รู้กันตั้งแต่อ้อนแต่ออก พออ่านออกเขียนได้ก็เริ่มจะรู้เป็นเลา ๆ ว่าอะไรคืออะไร เพราะการบริการเหล่านี้กระทำกันอย่างเปิดเผยมากขึ้น จะเห็นว่า มีการโฆษณาผ่านสื่อ ตั้งป้ายเชิญชวนขนาดใหญ่อยู่ริมถนน หรือแม้แต่หน้าสถานบริการเอง โดยเฉพาะการทำในที่เฉพาะก็จะเห็นว่า สามารถพูดหรือบรรยายได้อย่างเต็มที่ และแน่นอนว่า ภาพโฆษณาย่อมเปิดเผยไม่ปิดบังใด ๆ เลย

          ถนนรัชดาภิเษก ในกรุงเทพบ้านเรานี้เอง น่าจะยกให้เป็นถนนสายบันเทิงแห่งหนึ่ง เพราะตลอดแนวถนนมีสถานบันเทิงตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ นักเที่ยวที่ชอบหาความสำราญมาถนนสายนี้ยากที่จะมีใครผิดหวังออกไป แต่ขณะเดียวกันถนนสายนี้ก็เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยราชการที่สำคัญ อาทิเช่น ศาลอาญา ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถาบันราชภัฏจันทรเกษม ซึ่งสมควรที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเข้าไปปรามการโฆษณาที่กระทำกันอย่างเปิดเผย เช่น ป้ายหญิงสาวผมทองของสถานบริการแห่งหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ภาพโป๊เปลือยอุจาดตา แต่ก็เป็นภาพที่แสดงวัตถุประสงค์ของเจ้าของสถานบริการได้อย่างดี

          กฎหมายที่จะดูแลและให้ควบคุมการโฆษณา คือ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งหน่วยงานที่มีอำนาจเต็มในการบังคับใช้กฎหมาย คือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยกฎหมายระบุว่า การโฆษณาสินค้าและบริการใด ๆ จะต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้นบนถนนรัชดาภิเษกขณะนี้ สมควรที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ

          อย่างไรก็ตามช่องว่างของกฎหมาย ตลอดจนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม ก็เป็นผลให้การกระทำผิดเกิดขึ้นในสังคมของเรา จนรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ผิดอะไรที่จะกระทำ ดังนั้นอย่าไปนั่งรอหรือหวังให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลและปราบปรามแต่ฝ่ายเดียว คงต้องฝากเป็นภาระให้กับคนในสังคมช่วยกันตรวจตราและสอดส่องการกระทำอันมิชอบใด ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย เช่นเดียวกับ สโลแกนเก๋ ๆ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

          เพื่อที่ว่า ต่อไปถ้าชาวต่างประเทศมาเที่ยวเมืองไทย คงไม่คิดถึงเรื่องเฉพาะเรื่องเซ็กส์กับกอล์ฟเพียงเท่านั้นหากแต่จะได้นึกถึงความมีน้ำใจไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รอยยิ้มที่อ่อนโยนเป็นมิตร ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ายิ่งของไทยเรา โดยก่อนจะถึงวันนั้นเราคงต้องยอมรับความเป็นจริง และเร่งแก้ไขจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นเสียตั้งแต่วันนี้