ศูนย์เฝ้าระวังทาง...
บรรณาธิการ
ห้องรับแขก
ฉลาดบริโภค
บอกเล่าเก้าสิบ
ร่วมด้วยช่วยสังคม
ข่าวคนดี
แสดงความคิดเห็น

 

ลูกหลาน เผ่าพันธ์...

ใครว่าเมืองไทยไม่การ์ตูน เพศและกามารมณ์ ลูกหลาน เผ่าพันธ์... โฆษณาขายเซกส์ ความจริงต้องยอมรับ รถเมล์แอร์ธรรมชาติ

          แม้คำกล่าวที่ว่า “สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากลิง” จะยังไม่ได้รับการสรุปอย่างชัดเจนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ทว่าเราคงไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ที่มีอยู่สูงมาก (สูงเกือบร้อยเปอร์เซนต์เลยทีเดียว) ของข้อสันนิษฐานนี้เหตุผลประการหนึ่งก็คือ จากการสังเกตมนุษย์เผ่าพันธุ์ “คนไทย” มาช่วงระยะเวลานานพอสมควร ปรากฏความจริงว่า พวกเขาใช้เวลาไม่นานนัก (อาจจะไม่ถึงห้าปีด้วยซ้ำ) ในการกลายพันธุ์ (Mutation) ตัวเองจากวัฒนธรรมหนึ่ง ไปสู่วัฒนธรรมอื่น ๆ

          ครั้งหนึ่ง คนไทยจำนวนไม่น้อยเคยกลายจากความเป็นคนไทย ไปสู่ความเป็นฝรั่งตะวันตก ที่พวกเขาเชื่อว่าเป็น “สากล” (วัฒนธรรมของฝรั่งตะวันตกพวกนี้เลยกลายเป็นสากลไปจริง ๆ เพราะความที่แพร่หลายไปทุกซอกทุกมุมของโลก)ตอนนี้ คนไทยจำนวนมาก (โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่) ก็กำลังจะกลายจากความเป็นคนไทยไปสู่ความคิกขุอาโนเนะแบบญี่ปุ่น วัฒนธรรมจากประเทศใกล้บ้านที่หลายคนอาจมองข้ามอิทธิพลซึ่งแผ่ขยายทะลุทะลวงเข้ามา

…มันอาจจะแทรกเข้าสู่ความคิดของเรา ในระหว่างที่เรากำลังเจริญเติบโต เรากำลังดูหรืออ่านการ์ตูนที่แฝงคติคำสอน ความรู้ หรือความบันเทิงอย่าง “อิคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา” “ชินจังเจ้าหนูจอมแก่น” “หน้ากากเสือ” “นินจาฮาโตริ” “โดราเอมอน” “เซลล่ามูน…สาวน้อยมหัศจรรย์” “ดรากอนบอล” “คิวทาโร่” “ซุปเปอร์ด๊อกเตอร์ K” “อุลตร้าแมน” “อาราเล่” ฯลฯ หรือแม้กระทั่งสื่อการ์ตูนลามกต่าง ๆ

…มันอาจจะซ่อนอยู่ในตู้ดูดเงินสีแปร๊ด ที่คอยให้เรามาเสียเงินยิ้มหรือทำท่าประหลาด ๆ แลกกับสติ๊กเกอร์ภาพถ่ายใบกระจิ๋วที่มีราคาแพงกว่า ค่าอาหารกลางวันของเด็กยากจน ๑ สัปดาห์

…มันอาจจะป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ริมฝีปากหรือกระเพาะอาหาร คอยออกคำสั่งให้เท้าของเราก้าวเข้าไปยืนในร้านอาหารซึ่งขายบะหมี่ชามละ ๗๐ บาทขึ้นไป (อุด้ง ราเมน) กุ้งชุบแป้งทอดตัวละไม่น้อยกว่า ๑๕ บาท (เทมปุระ) หรืออาหาร (ธรรมดา ๆ ) ที่มีชื่อพิสดารอื่น ๆ มันอาจจะมาพร้อม ๆ กับความสะดวก ความรวดเร็ว ความตื่นเต้น (รวมทั้งความเห่อ) ที่ทำให้ดู ตา จมูก ปาก ปลายนิ้ว และอวัยวะอื่น ๆ ของคุณเคยชินกับ “ฮิตาชิ, มิตซูบิชิ, โตชิบา, โชกุบุสสึ โมโนตาการิ, ซูซูกิ, กูลิโกะ, ไดยาโมโตะ, ทามาก๊อตจิ, คาราโอเกะ” (เครื่องอุปโภคบริโภคสัญชาติอาทิตย์อุทัย ที่เราออกชื่อเสียงเรียงนามได้ไม่ถนัดลิ้นนัก)…มันอาจจะนั่งเครื่องบิน หรือลงเรือมากับเสื้อ กระโปรง กางเกง รองเท้า ถุงเท้า เข็มขัด กระเป๋า นาฬิกา หรือเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับที่บางครั้งก็เหมาะเฉพาะกับคนบางกลุ่มอาชีพ บางวัย บางวัฒนธรรม บางรูปแบบชีวิตความเป็นอยู่หรือบางท้องถิ่น เนื่องจากมันถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้น เพื่อสนองต่อความต้องการ และความจำเป็น ของคนกลุ่มนั้น ๆ มันอาจจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังในทันทีที่เราตัดสินใจว่าจะทำให้อวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของร่างกาย ปรากฎลวดลายแปลก ๆ ขึ้น

ทุกวันนี้ ตามท้องถนน คุณอาจจะเห็นเด็กวัยรุ่นผมตั้ง และผมชึ้ ผมเกรียน ผมโกร๋น (สารพัดสี) ตระเวนเดินฆ่าเวลาตามห้างสรรพสินค้า และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกเหมือนกัน ถ้าพวกเขาจะเจาะหูสัก ๕ - ๖ รู ระเบิดติ่งหูเอาหินหลากสียัดไปแทนที่เนื้อ เจาะลิ้นแล้วเอาห่วงหรือตุ้มใส่ (เพื่อ) ขัดขวางการพูด หรือการรับประทานอาหาร

…เจาะ เจาะ เจาะ…

เจาะอวัยวะต่าง ๆ เพื่อความภูมิใจ ความรู้สึกโก้เก๋ ความแปลกใหม่ ความโดดเด่น …สารพัดเหตุผลที่นำมาซึ่งความเจ็บปวด (แล้วมานั่งเสียใจเมื่อเวลาผ่านไปสักสิบหรือยี่สิบปี หรือเมื่อตัวเองค้นพบ ผลเสียจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป)แน่นอนว่า ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่มีความคิด (พวกเขาต้องใช้ความคิดมากที่เดียว ในการเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นอะไรที่แตกต่างไปจากตัวตนเดิมที่สั่งสมมาตั้งแต่ยังเป็นเพียงทารก)แต่อาจเป็นเพราะ พวกเขาขาดความยั้งคิด   ความรอบคอบ และความตระหนักในคุณค่าของสิ่งที่คนจากคนอื่นไม่เคยมองข้ามทั้ง ๆ ที่สิ่งที่พวกเขารับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นสินค้า แฟชั่น หรือวัฒนธรรม เหล่านี้ล้วนเป็นเพียงสิ่งฉาบฉวยที่แม้จะมีที่มา แต่ก็ปราศจากรากฐานและการกลั่นกรองบ่อยครั้งที่คนไทย (ซึ่งกำลังจะกลายเป็นมนุษย์ที่คิกขุฯ) รับเอาสิ่งใหม่ ๆ ได้ง่าย (เกินไป) โดยไม่จำเป็น (เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ ) และไม่พิจารณา(ดังตัวอย่างของแฟชั่นที่พร้อมจะล้าสมัยในทันทีที่คนในประเทศมหาอำนาจ เกิดความเบื่อหน่าย) บางครั้งหลอกตัวเองว่า มันคือ “ความล้ำสมัย” มันเป็น “การก้าวทันโลก” ทั้ง ๆ ที่สำหรับมวลมนุษย์ชาติแล้ว ความนำสมัยเหล่านี้อาจไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลยมิหนำซ้ำผลจากการบริโภคอย่างไม่รอบคอบกลับมาเป็นที่มาของความสูญเปล่า ทางปัญญา วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมบ่อยครั้งที่เราหลอกตัวเองว่า มันคือ “ความเป็นตัวของตัวเอง” (ทั้ง ๆ ที่เราพึ่งจะเห็นมัน ไม่กี่แว๊บในหน้าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ผ่านจอโทรทัศน์หรือสื่ออื่น ๆ ) แล้วก็ปล่อยให้ความเป็นตัวของคน (ชาติ) อื่นนี้ มาสร้าง “คนไทยโหล ๆ “ (เรามักจะเรียกของที่มีอยู่มากมายดาดดื่น-ไร้คุณภาพ-ปราศจากคุณค่าว่า “ของโหล” ) มาครอบงำความคิด มามีอิทธิพลเหนือการจับจ่าย เหนือความเป็นคนไทยที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เพียงเพราะเรา ไม่เข้มแข็งเราอ่อนแอ ถูกหลอกล่อ ยั่วเย้าได้ง่ายพร้อม ๆ กับการเคลื่อนผ่านของกาลเวลา คนไทยซึ่งมีปริมาณความภูมิใจ และความนับถือ ในวัฒนธรรมของตนเองต่ำเหล่านี้ก็ถูกหลอกล่อให้วิ่งตามสิ่งที่คนจากที่อื่นนำมาเผยแพร่นำมาแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์มหาศาลทาง เศรษฐกิจทุกวินาที ทีละนิด ๆ ๆ และอีกไม่นาน ความเป็นไทยจะค่อย ๆ หายไปจากวิถีชีวิตของคนไทยอย่างสมบูรณ์ (อาจหลงเหลืออย่างเบาบางเป็นตำนานในพิพิธภัณฑ์หรือในคนชาติอื่นที่เห็นคุณค่า)และถึงตอนนั้นคนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานจะกลายเป็น ”คนสารพัดชาติ” ที่ไม่เหลือความภาคภูมิ

ฐิติพร วินิจมงคลสิน


ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม