สุดสาคร
ใครว่าเมืองไทยไม่มีการ์ตูน
ช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ที่ผ่านมามีหนังการ์ตูนเรื่องหนึ่งได้เข้าฉายในโรงหนังบ้านเรา
ชื่อว่า The Prince of Egypt
เป็นหนังการ์ตูนเรื่องยาวของบริษัทดรีมเวิร์ก
ประเทศอเมริกา
เป็นที่ได้รับความสนใจสำหรับคนดูหนังบ้านเราพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็นเด็กและผู้ใหญ่
ซึ่งการที่เด็กให้ความสนใจกับการ์ตูนไม่ใช่เรื่องแปลกอยู่แล้ว
แต่ที่น่านำมาขบคิดกันก็คือ
เด็กไทยส่วนใหญ่มักจะได้ชมหนังการ์ตูนที่ผลิตจากต่างประเทศทั้งนั้น
เด็กไทยคนไทยที่ไม่รู้จัก
ชินจังจอมแก่น มารูโกะจอมกวน
ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้ถือว่าเชยระเบิดทีเดียวหรือใครไม่เคยดูหนังการ์ตูนของวอลท์
ดิสนีย์
ที่โด่งดังมากๆในเรื่องการผลิตการ์ตูนยาวจากฮอลลีวู้ดละก็คงจะคุยกับเด็กๆสมัยนี้ด้วยกันไม่รู้เรื่องเป็นแน่
จากการที่เด็กๆมักติดการ์ตูน
โดยเฉพาะการ์ตูนที่มาจากต่างประเทศ
เลยทำให้ย้อนกลับมาดูว่าประเทศของเราเคยมีใครผลิตการ์ตูนโดยฝีมือคนไทยเองให้เด็กๆดูบ้างหรือเปล่า
แทบจะนึกไม่ออกกันเลยทีเดียว
นึกไม่ออกก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี
เพราะบ้านเราก็เคยมีคนผลิตการ์ตูนยาวออกมาเรื่องหนึ่งชื่อ
สุดสาคร
ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ผลิตโดยคนวาดและดำเนินการผลิตชื่อ
ปยุต เงากระจ่าง
เขาผู้นี้เป็นบุคคลแรกและบุคคลเดียวในขณะนี้ของประเทศไทยที่ทำการ์ตูนออกมาสำหรับคนไทยอย่างแท้จริง
โดยเลือกเอาตอนๆหนึ่งของวรรณคดีที่เป็นมรดกของชาติที่ชื่อว่า
พระอภัยมณี มาทำเป็นการ์ตูน
นั่นก็คือช่วงกำเนิดสุดสาครนั่นเอง
ทุกคนคงรู้จักเรื่องพระอภัยมณีเป็นอย่างดี
แต่ก็จะย้อนเล่าให้ฟังเล็กน้อยเฉพาะตอนที่ทำมาเป็นการ์ตูน
เราคงจะจำกันได้ว่าพระอภัยมณีและนางเงือกได้เสียกันเป็นสามีภรรยา
นางเงือกซึ่งอาศัยอยู่ที่อ่าวหน้าเกาะแก้วพิสดารได้คลอดลูกชาย
พระโยคีได้นำไปเลี้ยงไว้และให้ชื่อว่าสุดสาคร
สุดสาครเป็นเด็กที่มีความสามารถโดยกำเนิดอยู่แล้ว
เมื่อได้เรียนวิชาอาคมจากพระโยคีก็ยิ่งเก่งกล้ามากขึ้น
เมื่ออายุได้ 3
ขวบก็ได้ลาแม่และพระโยคีออกตามหาบิดา
โดยมีม้ามังกร
(ม้าวิเศษที่เป็นลูกผสมระหว่างม้ากับมังกร)
ซึ่งจับได้กลางทะเลเป็นพาหนะคู่ใจ
และมีไม้เท้าของโยคีเป็นอาวุธคู่มือ
ระหว่างการเดินทางได้ผจญภัยต่างๆ
เช่นรบกับพวกผีดิบ
ถูกชีเปลือยเจ้าเล่ห์ผลักตกเหว แต่ทุกครั้งพระโยคีก็มาช่วยและสอนให้รู้ถึงการดำรงชีวิตในโลกให้ด้วย
ทุกคนคงเคยได้ยินคำกลอนตอนนี้บ้างเป็นแน่
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
นี่คือคำสอนหนึ่งที่พระโยคีสอนสุดสาคร
สุดสาครเมื่อได้เดินทางตามหาพระบิดาและผ่านอุปสรรคต่างๆก็ได้มาถึงเมืองการะเวก
กษัตริย์เมืองการะเวกเห็นเข้าก็นึกรัก
จึงเลี้ยงไว้เป็นโอรสบุญธรรมคู่กับธิดาของพระองค์ชื่อเสาวคนธ์
ต่อมาพระองค์กษัตริย์เมืองการะเวกมีพระโอรสอีกพระองค์หนึ่งชื่อหัสไชย
สุดสาครใช้ชีวิตอยู่ในเมืองการะเวกถึง
10 ปี
ก็ทูลลาเจ้าเมืองการะเวกติดตามหาพระบิดาต่อ
โดยมีเสาวคนธ์และหัสไชยขอติดตามไปด้วย
ซึ่งตอนนั้นพระอภัยมณีอยู่บนเรือสำเภาอีกลำหนึ่ง
แต่เรื่องก็มาจบลงเสียก่อนเพราะว่าคุณปยุต
เงากระจ่าง
ทำการ์ตูนเรื่องนี้ต่อไม่ไหว
เหตุผลเนื่องมาจากสุขภาพร่างกายตอนนั้นไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก
การ์ตูนเรื่องสุดสาครนี้เริ่มผลิตอย่างจริงจังเมื่อปี
พ.ศ. 2519 และออกฉายเมื่อปี พ.ศ. 2520
ขณะนี้การ์ตูนเรื่องนี้มีอายุได้
20 ปีเศษๆแล้ว
เป็นการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกที่ยังไม่มีเรื่องที่สองหรือเรื่องที่สามตามมา
ที่นำเอาเรื่องนี้มาเขียนและแนะนำให้ทุกคนรู้จักก็เพราะอยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ดูหนังการ์ตูนเรื่องนี้
เนื่องจากเป็นการ์ตูนที่ผลิตสำหรับให้คนไทยดู
เพราะเป็นการนำเอาวรรณคดีเรื่องเอกของประเทศมาทำแล้ว
ยังเป็นการแสดงความภาคภูมิใจกับคนไทยและประเทศของเราที่อย่างน้อยก็มีการ์ตูนสักเรื่องหนึ่งเป็นของคนไทยเอง
และที่สำคัญการที่ปยุต
เงากระจ่าง
เลือกเรื่องนี้มาทำเป็นการ์ตูนก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ
เพราะทำให้เราได้คติและแง่คิดของการดำรงชีวิตความเป็นเด็ก
เพราะสุดสาครถึงแม้จะมีพละกำลังเก่งกล้าแค่ไหนแต่ประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ก็ยังน้อยมากนัก
ฉะนั้นก็ต้องมีการเชื่อฟังและให้ความเคารพผู้ใหญ่
ซึ่งเป็นคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนเราก็เป็นเรื่องที่ดี
ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่า
การ์ตูนเรื่อง สุดสาคร
เป็นการ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดทีเดียว
แต่ตอนนี้ก็เข้าใจว่าหาดูได้ยากเต็มที
นอกจากจะมีโอกาสสำคัญๆจริงๆ
ถ้าใครสนใจนำการ์ตูนเรื่องนี้ไปศึกษาสามารถติดต่อไปได้ที่มูลนิธิหนังไทยได้
เพราะคาดว่าน่าจะยังมีฟิล์มเหลืออยู่ให้เราทุกคนได้มีโอกาสชมกัน |