สัมภาษณ์ศิลปินแห่งชาติ

สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ สัมภาษณ์ศิลปินแห่งชาติ สัมภาษณ์แขกรับเชิญ

 

 

ศูนย์เฝ้าระวังทาง... บรรณาธิการ ห้องรับแขก ฉลาดบริโภค บอกเล่าเก้าสิบ ร่วมด้วยช่วยสังคม ข่าวคนดี แสดงความคิดเห็น

 

สัมภาษณ์พิเศษ ศิลปินแห่งชาติ

จุรี โอศิริ

.สัมภาษณ์พิเศษ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง

          นางจุรี โอศิริ หรือ "ป้าจุ๊" ที่เราได้ยินและเรียกติดปากกันในวงการบันเทิง ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักพากษ์และนักแสดง) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ในวันนี้ป้าจุ๊ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการ มีงานแสดงและงานพากย์ผ่านออกมาให้เราได้รับชมและรับฟังอยู่เสมอ

          จากหน้าที่ความรับผิดชอบ และประสบการณ์ที่คร่ำหวอดที่ "ป้าจุ๊" ได้คลุกคลีวงการบันเทิงมานานหลายสิบปี จึงมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในวงบันเทิง และในสังคมภายนอก ดังนั้นในวันที่วัยรุ่นไทยกำลังคลั่งไคล้ และนิยมแฟชั่น "โมเดิร์นฮิปปี้" ป้าจุ๊ คิดอย่างไรและให้คำแนะนำวัยรุ่น - หลานป้าจุ๊ อย่างไรบ้าง

ถาม ความคิดเห็นต่อการแต่งกายของวัยรุ่นในปัจจุบัน

ตอบ ตอบ การแต่งกายของวัยรุ่นในปัจจุบันค่อนข้างจะล้นขอบมากขึ้น หลายคนแต่งกายในลักษณะตามใจฉัน ไม่ถูกกาละเทศะ ซึ่งจริง ๆ เป็นเรื่องที่จะต้องคำนึงถึงให้มากด้วย การแต่งกายไม่ใช่ว่าสักแต่จะแต่งประชันขันต่อกัน แต่ต้องดูให้เหมาะสมกับตัวผู้แต่งให้มาก ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ราคาแพง หรือตามแฟชั่นจนเกินไป เพราะมันอาจจะไม่เหมาะสมกับเราก็ได้

       ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปข้างนอก เว้นแต่ไปกองถ่าย จึงไม่ค่อยเห็นว่าวัยรุ่นที่เดินกันตามสยามสแควเขาเป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว แต่เท่าที่ได้ติดตามจากสื่อ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ   และหนังสือพิมพ์ก็ได้ทราบว่าแฟชั่นที่วัยรุ่นกำลังให้ความสนใจกับแฟชั่นที่เรียกว่า โมเดิร์นฮิปปี้ จนผู้ใหญ่หลายคนออกมาติงว่า ไม่เหมาะสม เพราะมีการย้อมผมหลากสี สัก เจาะ ตามร่างกาย

 

ถาม เมื่อเห็นแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ คิดว่าการแต่งกายในลักษณะดังกล่าว คงเกิดขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เป็นการแต่งกายของวัยรุ่นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่น่าที่จะสร้างกระแสให้วัยรุ่นกลุ่มอื่น ๆ เลียนแบบได้ นอกจากนี้การแต่งกายอย่างโมเดิร์นฮิปปี้ก็พบเฉพาะในต่างประเทศ ใครจะมาแต่งในบ้านเราคงเดินถนนได้ยาก เพราะสังคมบ้านเราคงยอมรับการแต่งกายลักษณะนี้ไม่ได้

      ส่วนกรณีที่มีการเกรงกันว่าการแต่งกายจะสร้างปัญหานั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกไม่นานความสนใจตรงนี้ก็คงเสื่อมไปเอง มีแฟชั่นใหม่ ๆ เข้ามา ผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปเรื่อย วัยรุ่นเขาก็ชอบหรือทำอะไรชั่วประเดี๋ยวประด๋าว แล้วคงจะเบื่อแล้วก็เลิกไปเอง เพราะมีอะไรที่น่าสนใจกว่า

      สำหรับดาราวัยรุ่นที่เคยมีโอกาสร่วมงานด้วย บางครั้งจะช่วยเตือน และแนะนำเรื่องการวางตัว การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ อย่างถ้าจะไปออกรายการเกมโชว์ หรือรายการทอล์กต่าง ๆ จะแนะว่าอย่าแต่งตัวโป๊ แต่งให้เข้ากับบุคลิกของตน วัยรุ่นมีความงดงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากก็น่ารักน่ามอง แต่บางคนต้องปล่อยไป เพราะเขาชอบของเขา

 

ถาม ช่วยเล่าอดีตสมัยป้าจุ๊วัยรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ ช่วงที่เป็นวัยรุ่นก็ได้เจอได้เห็นแฟชั่นมาสารพัดรูปแบบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกางเกงขาบาน เลียนแบบดาราดังอย่างเอลวิส เพรสลีย์ ตามถนนหนทางจะเห็นทรงผมโด่เด่ ไว้จอนยาวเรียกว่าฮิตกันเต็มบ้านเต็มเมือง พอหลุดจากช่วงนั้นจะฮิตกางเกงนิวลุค กระโปรงยาวครึ่งน่อง ใครได้ใส่นำสมัยมากสุด สุด อย่างเสื้อเอวลอย เปิดสะดือที่วัยรุ่นเขาใส่กันทุกวันนี้ สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นก็ยังได้ใส่กับเขาเหมือนกัน แต่เอวไม่ลอยโชว์สะดือชัดเจนอย่างนี้

      กระแสแฟชั่นที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหมือนวัฏจักรวนเวียนกันเป็นวงกลม พอแฟชั่นนี้เริ่มเสื่อม แฟชั่นใหม่ก็เข้ามา แล้วก็วนกลับมาที่เดิมอีก ดังนั้นจึงไม่น่าจะไปตามแฟชั่นกันดีกว่า แต่งกายให้เหมาะสมกับตัวเอง ต่อไปไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน เราก็ทันสมัยอยู่ตลอด

ถาม วัยรุ่นปัจจุบันกับวัยรุ่นยุคป้าจุ๊เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ตอบ จริง ๆ แล้วคงจะเปรียบเทียบ และแจกแจงไม่ได้หรอก เพราะสังคมที่แวดล้อมแตกต่างกัน วัยรุ่นที่เฮี้ยวมากสมัยนั้นก็แค่เพียงแก่นกระโหลกและซุกซนไปตามประสาเด็ก ที่จะมาติดยาบ้า ยาเสพติด ยกพวกชกต่อยกัน ย้อมผมกันสีเจ็บ ๆ หรือเต้นรำร้องเพลงส่งเสียงกันว้าก ๆ หาไม่มีหรอก ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีที่ได้เกิดและเติบโตในยุคนั้น รู้สึกว่าตัวเองได้รับการบ่มเพาะจากสิ่งแวดล้อมที่อ่อนโยน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่โลดโผนโจนทะยานอย่างปัจจุบันที่อะไร ๆ ก็รวดเร็วไปหมด

       วัยรุ่นปัจจุบันเขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา บางอย่างพลิกผันได้น่าตกใจมาก สมัยก่อนที่ได้นั่งรถรางตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ รอบกรุงก็รู้สึกการคมนาคมแสนสะดวกสบายแล้ว ใครที่มีโอกาสไปต่างประเทศก็สุดแสนจะโก้ ต้องแต่งกายอย่างสุภาพเหมาะสม ใส่สูทใส่กระโปรงเรียบร้อย ญาติพี่น้อง   แห่แหนไปส่ง ต่างจากปัจจุบันเดินทางไปต่างประเทศก็เหมือนกับไปต่างจังหวัด นุ่งกางเกงขาสั้นเสื้อยืดขึ้นเครื่องก็ไปได้แล้ว การคมนาคมทันสมัยมากขึ้น อีกไม่นานเราจะได้นั่งรถไฟฟ้า นั่งรถไฟใต้ดิน นี่เป็นแค่ตัวอย่างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่วนน้อยเท่านั้น แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า แตกต่างจากสมัยก่อนมาก ซึ่งความ    ทันสมัยเหล่านี้มันมีผลต่อการเติบโต แนวความคิดของคนรุ่นปัจจุบัน

      นอกจากนี้การหลั่งไหลของวัฒนธรรมต่างชาติที่เข้ามาได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เห็นจากสื่อที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ความรวดเร็วนี้เองที่ทำให้กระแสโลกเคลื่อนคล้อยไปตามกันจนเกือบจะพร้อมเพรียงกันทั่วโลก ข้อมูลบางอย่างมีประโยชน์ ขณะเดียวกันบางส่วนก็ไร้สาระ มันอยู่คนที่คนจะเลือกใช้ให้ถูกต้อง

     ดังนั้นจะเห็นว่าสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัววัยรุ่นล้วนแต่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นแทบทั้งนั้น การมององค์รวมอย่างนี้ จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นเราอย่างถูกทาง การมองแยกส่วนไม่ดูความเป็นจริงทั้งหมด ปัญหาก็แก้ไม่ตกเสียที

 

ถาม อยากให้ฝากข้อคิดให้กับวัยรุ่น

ตอบ การแต่งกายของวัยรุ่นในปัจจุบันค่อนข้างจะล้นขอบมากขึ้น หลายคนแต่งกายในลักษณะตามใจฉัน ไม่ถูกกาละเทศะ ซึ่งจริง ๆ เป็นเรื่องที่จะต้องคำนึงถึงให้มากด้วย การแต่งกายไม่ใช่ว่าสักแต่จะแต่งประชันขันต่อกัน แต่ต้องดูให้เหมาะสมกับตัวผู้แต่งให้มาก ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ราคาแพง หรือตามแฟชั่นจนเกินไป เพราะมันอาจจะไม่เหมาะสมกับเราก็ได้

       ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปข้างนอก เว้นแต่ไปกองถ่าย จึงไม่ค่อยเห็นว่าวัยรุ่นที่เดินกันตามสยามสแควเขาเป็นอย่างไรกันบ้างแล้ว แต่เท่าที่ได้ติดตามจากสื่อ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ   และหนังสือพิมพ์ก็ได้ทราบว่าแฟชั่นที่วัยรุ่นกำลังให้ความสนใจกับแฟชั่นที่เรียกว่า โมเดิร์นฮิปปี้ จนผู้ใหญ่หลายคนออกมาติงว่า ไม่เหมาะสม เพราะมีการย้อมผมหลากสี สัก เจาะ ตามร่างกาย

 

ถาม เมื่อเห็นแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ คิดว่าการแต่งกายในลักษณะดังกล่าว คงเกิดขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เป็นการแต่งกายของวัยรุ่นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่น่าที่จะสร้างกระแสให้วัยรุ่นกลุ่มอื่น ๆ เลียนแบบได้ นอกจากนี้การแต่งกายอย่างโมเดิร์นฮิปปี้ก็พบเฉพาะในต่างประเทศ ใครจะมาแต่งในบ้านเราคงเดินถนนได้ยาก เพราะสังคมบ้านเราคงยอมรับการแต่งกายลักษณะนี้ไม่ได้

      ส่วนกรณีที่มีการเกรงกันว่าการแต่งกายจะสร้างปัญหานั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ อีกไม่นานความสนใจตรงนี้ก็คงเสื่อมไปเอง มีแฟชั่นใหม่ ๆ เข้ามา ผลัดเปลี่ยนเวียนกันไปเรื่อย วัยรุ่นเขาก็ชอบหรือทำอะไรชั่วประเดี๋ยวประด๋าว แล้วคงจะเบื่อแล้วก็เลิกไปเอง เพราะมีอะไรที่น่าสนใจกว่า

      สำหรับดาราวัยรุ่นที่เคยมีโอกาสร่วมงานด้วย บางครั้งจะช่วยเตือน และแนะนำเรื่องการวางตัว การแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ อย่างถ้าจะไปออกรายการเกมโชว์ หรือรายการทอล์กต่าง ๆ จะแนะว่าอย่าแต่งตัวโป๊ แต่งให้เข้ากับบุคลิกของตน วัยรุ่นมีความงดงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากก็น่ารักน่ามอง แต่บางคนต้องปล่อยไป เพราะเขาชอบของเขา

 

ถาม ช่วยเล่าอดีตสมัยป้าจุ๊วัยรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ ช่วงที่เป็นวัยรุ่นก็ได้เจอได้เห็นแฟชั่นมาสารพัดรูปแบบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกางเกงขาบาน เลียนแบบดาราดังอย่างเอลวิส เพรสลีย์ ตามถนนหนทางจะเห็นทรงผมโด่เด่ ไว้จอนยาวเรียกว่าฮิตกันเต็มบ้านเต็มเมือง พอหลุดจากช่วงนั้นจะฮิตกางเกงนิวลุค กระโปรงยาวครึ่งน่อง ใครได้ใส่นำสมัยมากสุด สุด อย่างเสื้อเอวลอย เปิดสะดือที่วัยรุ่นเขาใส่กันทุกวันนี้ สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นก็ยังได้ใส่กับเขาเหมือนกัน แต่เอวไม่ลอยโชว์สะดือชัดเจนอย่างนี้

      กระแสแฟชั่นที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหมือนวัฏจักรวนเวียนกันเป็นวงกลม พอแฟชั่นนี้เริ่มเสื่อม แฟชั่นใหม่ก็เข้ามา แล้วก็วนกลับมาที่เดิมอีก ดังนั้นจึงไม่น่าจะไปตามแฟชั่นกันดีกว่า แต่งกายให้เหมาะสมกับตัวเอง ต่อไปไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน เราก็ทันสมัยอยู่ตลอด

ถาม วัยรุ่นปัจจุบันกับวัยรุ่นยุคป้าจุ๊เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ตอบ จริง ๆ แล้วคงจะเปรียบเทียบ และแจกแจงไม่ได้หรอก เพราะสังคมที่แวดล้อมแตกต่างกัน วัยรุ่นที่เฮี้ยวมากสมัยนั้นก็แค่เพียงแก่นกระโหลกและซุกซนไปตามประสาเด็ก ที่จะมาติดยาบ้า ยาเสพติด ยกพวกชกต่อยกัน ย้อมผมกันสีเจ็บ ๆ หรือเต้นรำร้องเพลงส่งเสียงกันว้าก ๆ หาไม่มีหรอก ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีที่ได้เกิดและเติบโตในยุคนั้น รู้สึกว่าตัวเองได้รับการบ่มเพาะจากสิ่งแวดล้อมที่อ่อนโยน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่โลดโผนโจนทะยานอย่างปัจจุบันที่อะไร ๆ ก็รวดเร็วไปหมด

       วัยรุ่นปัจจุบันเขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา บางอย่างพลิกผันได้น่าตกใจมาก สมัยก่อนที่ได้นั่งรถรางตระเวนไปตามสถานที่ต่าง ๆ รอบกรุงก็รู้สึกการคมนาคมแสนสะดวกสบายแล้ว ใครที่มีโอกาสไปต่างประเทศก็สุดแสนจะโก้ ต้องแต่งกายอย่างสุภาพเหมาะสม ใส่สูทใส่กระโปรงเรียบร้อย ญาติพี่น้อง   แห่แหนไปส่ง ต่างจากปัจจุบันเดินทางไปต่างประเทศก็เหมือนกับไปต่างจังหวัด นุ่งกางเกงขาสั้นเสื้อยืดขึ้นเครื่องก็ไปได้แล้ว การคมนาคมทันสมัยมากขึ้น อีกไม่นานเราจะได้นั่งรถไฟฟ้า นั่งรถไฟใต้ดิน นี่เป็นแค่ตัวอย่างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นส่วนน้อยเท่านั้น แต่ก็ชี้ให้เห็นว่า แตกต่างจากสมัยก่อนมาก ซึ่งความ    ทันสมัยเหล่านี้มันมีผลต่อการเติบโต แนวความคิดของคนรุ่นปัจจุบัน

      นอกจากนี้การหลั่งไหลของวัฒนธรรมต่างชาติที่เข้ามาได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เห็นจากสื่อที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต ความรวดเร็วนี้เองที่ทำให้กระแสโลกเคลื่อนคล้อยไปตามกันจนเกือบจะพร้อมเพรียงกันทั่วโลก ข้อมูลบางอย่างมีประโยชน์ ขณะเดียวกันบางส่วนก็ไร้สาระ มันอยู่คนที่คนจะเลือกใช้ให้ถูกต้อง

     ดังนั้นจะเห็นว่าสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัววัยรุ่นล้วนแต่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นแทบทั้งนั้น การมององค์รวมอย่างนี้ จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นเราอย่างถูกทาง การมองแยกส่วนไม่ดูความเป็นจริงทั้งหมด ปัญหาก็แก้ไม่ตกเสียที

 

ถาม อยากให้ฝากข้อคิดให้กับวัยรุ่น

ตอบ วัยรุ่นเขามีความคิดของเขาเอง การที่เขาจะตัดสินใจ เลือกทำอะไรคนที่เป็นใหญ่คือใจของเขา การไปบังคับเคี่ยวเข็ญให้เขาเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่ต้องการนั้น อาจจะทำได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมดและไม่ประสบความสำเร็จด้วย ทางที่ดีคือแนะนำ คอยให้กำลังใจ และเป็นคู่คุยที่เขาไว้วางใจได้อย่างที่เลี้ยงลูกมา ช่วงวัยรุ่นที่เขาไปอยู่ต่างประเทศ เราไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เกเรหรือเปล่า   จนเขามาเล่าให้ฟังนั่นละ เราถึงได้รู้ แต่โชคดีที่ครอบครัวเรา หันหน้ามาคุยกัน    มีปัญหาก็ปรึกษากัน ใครทำผิดจะกล่าวคำขอโทษกันและกัน ลักษณะอย่างนี้เองที่จะช่วยให้ชีวิตเราเข้มแข็งและดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

       สำหรับการตามแฟชั่นก็ควรตามไปเพียงชั่วครู่ ชั่วยาม ให้ได้รู้ว่าเป็นอย่างไรก็น่าจะเพียงพอแล้ว อาจจะกำหนดเวลา    เช่น        วันแรกเริ่มบ้าตามกระแสไปหน่อย วันที่สองเพิ่มขึ้นอีกนิด วันที่สามเอาแบบหลุดโลกไปเลย แล้ววันที่สี่ให้เริ่มคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง ค่าใช้จ่าย และผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองต่อไปในวันที่ห้าความบ้านั้นก็น่าจะได้คลี่คลาย

        ตอนที่วัยรุ่นเขานิยมถ่ายสติ๊กเกอร์ หลาน ๆ เขาก็พาไปถ่ายเก็บไว้   เหมือนกัน สนุกดี ได้เห็นภาพตัวเองในสติ๊กเกอร์ ซักพักก็พอแล้ว เอาแค่รู้ว่าเขาถ่ายกันอย่างไร หรือที่วัยรุ่นนิยมสักลายพร้อยตามตัว         เราก็ทันสมัยได้เหมือนกัน เอาสติ๊กเกอร์รูปลอกมาติดเป็นลายที่ข้อเท้า ติดได้ ๒-๓ วันก็เอาออก

       อยากฝากหลาน ๆ วัยรุ่นให้ทำดีที่สุดทุกวัน รู้จักแยกแยะดีชั่วด้วยตัวเอง อย่างไรแล้วคนที่จะคิดได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่ตัวเขาเอง อยู่ที่ใจเขาเป็นสำคัญ เราก็คงได้แต่เพียงแนะนำ ตักเตือนในระดับหนึ่งเท่านั้น ขอให้หลาน ๆ หมั่นทำความดี ซื่อสัตย์ กตัญญู รักษาศีลห้า ชีวิตก็จะร่มเย็นเป็นสุขทุกวัน


ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม